การปลูกต้นไม้แบบในกระถาง
ในอดีตที่ผ่านมาการทำเกษตรกรรม
การปลูกพืช หรือการเลี้ยงสัตว์ ล้วนแต่ทำเพื่อพออยู่พอกิน
เหลือก็เอาไปขายซื้อสิ่งของอย่างอื่นที่ในพื้นที่ของตัวเองไม่มี
ประกอบกับประชากรในประเทศยังมีไม่มากเหมือนปัจจุบัน
ครอบครัวหนึ่งจะมีพื้นที่ถือครองอย่างน้อย 10 ไร่ขึ้นไป
แต่ในปัจจุบันประชากรในประเทศเพิ่มมากขึ้นเป็นทวีคูณ
พื้นที่ทางการเกษตรหรือพื้นที่ถือครองลดน้อยถอยลง
และกลายเป็นบ้านจัดสรรไปก็มาก
พื้นที่ในบริเวณบ้านที่จะปลูกไม้ผลไว้รับประทานก็แทบจะไม่มี
เพราะฉะนั้นทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น ผักผลไม้ต้องซื้อหาแทบทั้งนั้น
เกษตรกรผู้ผลิตผักผลไม้ก็ใช้สารเคมีในการป้องกันกำจัดโรคและแมลงศัตรูพืช
อย่างไม่ระมัดระวังและเกินความจำเป็น
ทำให้ประชาชนทั่วไปที่บริโภคได้รับสารเคมีเหล่านั้นตกค้าง
ต้องผจญกับโรคภัยไข้เจ็บและต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมากในการรักษา
และรัฐต้องสูญเสียงบประมาณมหาศาลในการนำเข้ายารักษาโรค
ถึงเวลาแล้วที่พวกเราต้องช่วยกันทำให้บ้านเรามีอากาศที่บริสุทธิในการหายใจ
มีผลไม้ไว้รับประทานและใช้ประดับไว้บริเวณบ้าน
มีผักที่ปลอดภัยจากสารเคมีไว้บริโภคในครัวเรือน
ประหยัดรายจ่ายตามแนวพระราชดำรัสเศรษฐกิจพอเพียง
และที่สำคัญยังสร้างบรรยากาศในครอบครัวให้รักใคร่กลมเกลียวในการชื่นชมผล
ผลิต ดอกและผลที่ได้ร่วมกันปลูก
ประโยชน์ของการปลูกไม้ผลในภาชนะ- เจริญเติบโตได้เร็วกว่าปลูกลงดิน เพราะดินปลูกมีความร่วนซุย และ โปร่ง - ใช้พื้นที่น้อย - ให้ผลผลิตเร็ว - ดูแลรักษาด้านโรค แมลง วัชพืช และการห่อผลง่าย - บังคับออกดอกติดผลได้ - ควบคุมคุณภาพ และรสชาติได้ ดีกว่าปลูกลงดิน - สามารถเคลื่อนย้าย หรือยกขายทั้งภาชนะได้ - ใช้เป็นไม้ประดับภายในบ้าน - สร้างบรรยากาศภายในครอบครัว - ดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ มลภาวะ คายออกซิเจน และลดโลกร้อน
ชนิดของไม้ผลที่ปลูกในภาชนะลำไย
มะม่วง ลิ้นจี่ ส้ม ส้มโอ มะนาว ขนุน น้อยหน่า มะปราง มะยงชิด ละมุด
มะละกอ กล้วย มะดัน ชมพู่ ลองกอง เงาะ มังคุด ทุเรียน เชอร์รี่ มะขาม มะไฟ
มะเฟือง ฯลฯ
ภาชนะที่ใช้ปลูก
-
วัสดุที่ไม่ใช้ประโยชน์แล้ว เช่น ปีบ กะละมัง ถังน้ำ ตุ่มใส่น้ำ
ตุ่มกรองน้ำ หม้อต่างๆ ยางรถยนต์ ฯลฯ - กระถางพลาสติก กระถางดินเผา
กระถางโอ่งมังกรราชบุรี วงบ่อซีเมนต์ ฯลฯ
วัสดุปลูก
- ดินดำ (หน้าดิน) 1 ส่วน - แกลบดิบ (เปลือกข้าว) 2 ส่วน - มูลวัว , มูลควาย 1 ส่วน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น